วิธีการเลือกสีให้เหมาะกับวัสดุและรูปแบบการใช้งานแต่ละประเภท

%e0%b8%97%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b8%84%e0%b8%aa%e0%b8%b5%e0%b8%97%e0%b8%b2%e0%b8%a0%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%ad%e0%b8%81

หลังจากผ่านหน้าร้อนและหน้าฝนกันมาแล้ว เชื่อว่าใครหลายๆคนคงอยากจะทาสีบ้านใหม่กันเยอะ เพราะสีบ้านที่ดูสดใสก็เริ่มจืดจางลง แต่อาจติดปัญหาว่าจะใช้สีอะไรและควรเลือกสีแบบไหนถึงจะเหมาะกับบ้านเราใช่ไหมคะ
วันนี้ COZY by BNTD มีเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆมาเป็นไอเดียให้กับลูกบ้านทุกท่านค่ะ

สีน้ำพลาสติก หรืออะคริลิค
เป็นสีที่นิยมใช้มากที่สุด เพราะสามารถใช้ทาได้ทั้งภายในและภายนอกบ้าน โดยสีที่ใช้ทาภายนอกนั้นจะมีราคาแพงกว่าสีทาภายใน เพราะเป็นสีที่มีอะคริลิคแบบ 100% และยังต้องผสมสารอื่นๆเข้าไปเพื่อช่วยป้องกันสภาพอากาศที่อยู่ภายนอก เช่น กันแดด กันฝน กันเชื้อรา กันตะไคร่น้ำ กันความเป็นกรด-ด่างต่าง ซึ่งเราควรให้ความสำคัญกับการเลือกสีอะคริลิคสำหรับทาภายนอกมากที่สุด เพราะถ้าเลือกไม่ได้เราอาจจะต้องทาสีบ้านใหม่บ่อยๆ เพราะสีทีไม่มีคุณภาพจะหลุดลอกออกมาง่ายมาก

สีน้ำมัน
เป็นสีที่ใช้น้ำมันหรือทินเนอร์เป็นตัวทำละลาย นิยมใช้กับงานทาไม้ ทาเหล็ก แต่ก็สามารถเอามาทาพื้นปู หรือคอนกรีตได้เหมือนกัน ลักษณะเด่นของสีน้ำมันก็คือ มันจะมีความเงางาม ทำความสะอาดง่าย แต่ข้อด้อยของมันก็คือมันมีราคาแพง และแห้งช้า(ประมาณ 6 ชั่วโมง)

สีย้อมไม้
ใช้ทาเฟอร์นิเจอร์ไม้ ส่วนที่เป็นไม้ภายในบ้านให้เป็นสีตามต้องการ

สีเคลือบไม้
ใช้เคลือบไม้ให้เงาๆสวยๆ เป็นการทาเพื่อโชว์ความสวยงามของลายไม้ เช่น แล็คเกอร์ เชลแล็ก

สีกันสนิม
ใช้ทาวัสดุเหล็กเพื่อกันสนิมขึ้น มักใช้ทาก่อนที่จะลงสีน้ำมันทับลงไปอีกที

เกรดของสีที่เราควรรู้
เกรดของสีก็มีความสำคัญที่ควรเอามาพิจารณาว่า เราควรจะเลือกสีเกรดไหน กับบ้านส่วนไหนของเราบ้าง โดยเกรดสีนั้นจะแบ่งเป็น เกรด A , B , C , D และ E โดยความแตกต่างของสีแต่ละเกรดมีดังนี้
สีเกรด A เป็นสีที่มีส่วนผสมของอะคริลิค 100% เป็นสีที่มาจากทางฝั่งยุโรป มีคุณภาพสูง อายุการใช้งานยาวนาน ตั้งแต่ 5-10 ปี
สีเกรด B เป็นสีที่มีส่วนผสมของอะคริลิค 100% เช่นกัน เป็นสีที่มาจากแถบเอเชีย มีคุณภาพกลางๆ อายุการใช้งานประมาณ 3-5 ปี
สีเกรด C เป็นสีที่มีส่วนผสมของอะคริลิค 70% และจะผสมสารอื่นๆเข้าไปอีก 30% คุณภาพพอใช้ อายุการใช้งานประมาณ 1-3 ปี
สีเกรด D เป็นสีเกรดต่ำสุด จะมีสารอื่นๆผสมอยู่ในสีมากกว่า 30% ส่วนผสมของอะคริลิคก็จะน้อยลงตามลำดับ

เคล็ดลับการทาสีบ้านให้ติดทนนาน
ความจริงแล้วการทาสีบ้านให้ติดทนนาน ใช้งานได้ชั่วลูกชั่วหลานนั้นง่ายๆมากค่ะ แต่เราต้องใส่ใจรายละเอียดกันสักหน่อย ก่อนอื่นเริ่มจากการเลือกสีให้เหมาะสมกับการใช้งาน คือหากเป็นสีที่เราต้องการใช้ทาภายนอก เราก็ควรเลือกสีที่เป็นเกรด A หรือ B ไปเลย แพงหน่อยแต่ใช้งานได้นานเป็น 10 ปี
แต่หากเป็นสีที่ใช้ทาภายในเราก็อาจดร็อปลงมาได้ เพราะสีภายในบ้านไม่ต้องต้องเผชิญกับสภาวะสิ่งแวดล้อมมากนัก แต่ก็ควรเลือกสีที่สามารถเช็ดและทำความสะอาดได้ง่าย ซึ่งเดี๋ยวนี้มีให้เลือกมากมายหลายยี่ห้อ
ส่วนการทาสีนั้นสิ่งสำคัญที่จะทำให้สีบ้านติดคงทนถาวรนั้นก็คือ การเตรียมพื้นผิวบริเวณที่เราทาสีให้ดี ให้เรียบ ไม่มีฝุ่นละอองยึดเกาะ ไม่มีไขมัน ไม่มีความชื้น หากมีรอยแตกก็ควรซ่อมแซมหาปูนมาปิดให้เรียบสนิท เมื่อเก็บความเรียบร้อยของพื้นผิวได้แล้ว จึงค่อยเอาสีที่เราต้องการทาทาลงไป โดยการทาสีนั้นก็ควรมาประมาณ 2-3 ชั้นขึ้นไป เพื่อให้สีเนียนเรียบ สวยงาม แต่อย่าทาเกิน 5 ชั้น เพราะจะทำให้ชั้นสีหนาเกินไป ซึ่งจะทำให้สีหลุดลอกได้ง่ายกว่าการทาเพียง 2-3 ชั้น นอกจากจะเปลืองสีมากกว่าแล้ว ความทนทานของสีก็ยังน้อยกว่าด้วยค่ะ

ขอบคุณความรู้ดีๆ
http://homeenrich.blogspot.com/2013/11/interior-paints.html

เว็ปไซต์ www.bntd.co.th
Calll Center 090-556-3645
Line: @cozybybntd

Translate »